จากบทความที่เเล้วเราได้พูดคุยกันไปคร่าวๆ เกี่ยวกับความเเตกต่างของของเทคโนโลยี Cavitation Ultrasound Cryolipolysis HIFEM เเล้ว วันนี้ IB จะมาลงรายละเอียดกันให้ชัดๆ ว่าเทคโนโลยีเเต่ละตัวนั้นมีการทำงานเเบบไหน สลายไขมันอย่างไร เเละเปรียบเทียบให้เห็นข้อดีเเละข้อเสียของเทคโนโลยีเเต่ละอัน
1. สลายไขมันด้วยเทคโนโลยี HIFEM เริ่มกันที่เทคโนโลยี HIFEM ต้องบอกก่อนว่า HIFEM กำลังเป็นเทคโนโลยีที่กำลังมาเเรงอย่างมาก ตั้งเเต่ช่วงกลางปีที่เเล้ว เเละยังต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน การทำงานของ HIFEM จะใช้พลังงานสนามเเม่เหล็กไฟฟ้าในการกระตุ้น ซึ่งถามว่าสามารถสลายไขมันได้โดยตรงไหม ต้องเลยว่าไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องที่สุด เพราะความจริงเเล้วเทคโนโลยี HIFEM จะเข้าไปกระตุ้นกับกล้ามเนื้อโดยตรงมากกว่า ทำให้กล้ามเนื้อมีการทำงานหรือเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง เมื่อกล้ามเนื้อทำงานหนักร่างกายจึงต้องดึงเอาพลังงานจากไขมันที่สะสมอยู่ออกมาใช้จนส่งผลให้ไขมันลดลงไปด้วยนั้นเอง ซึ่งอาจกล่าวได้ว่า ไขมันที่ลดลงจากการใช้เทคโนโลยี HIFEM นั้นเป็นผลพลอยได้ที่ตามมากกว่า ส่วนข้อดีของการลดไขมันด้วย เทคโนโลยี HIFEM คือ กล้ามเนื้อจะมีความหนาเเน่นมากขึ้น จึงช่วยสร้างซิกแพคได้ เเละไขมันจะถูกดึงออกมาใช้เป็นพลังงานจนหมด เเละจะถูกกำจัดไปอย่างถาวร ส่วนข้อเสียนั้นคือ จะค่อนข้างใช้เวลาโดยอยู่ที่ประมาณ 2 - 4 สัปดาห์ ที่จะเห็นผลลัพธ์
2. สลายไขมันด้วยเทคโนโลยี Cryolipolysis เป็นการใช้ความเย็นในอุณภูมิที่เหมาะสมเข้าไปกระตุ้นเซลล์ไขมันให้ตั้งโปรแกรมการตาย โดยลดระยะเวลาการมีชีวิตอยู่ของเซลล์ไขมันให้สั้นลง ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าเซลล์ไขมันในร่างกายนั้นมีอายุยาวนานเป็นสิบปี ดังนั้นการทำ Cryolipolysis จะเป็นเร่งทำลายเซลล์ไขมันให้มีระยะเวลาสั้นลง จากเดิมที่ใช้เวลาเป็นสิบปี ให้เหลือเพียง 90 วันนั่นเอง และในระยะเวลานี้ เซลล์ไขมันบริเวณที่มีการทำ Cryolipolysis จะค่อยๆปรับตัว เสื่อมสภาพไปทีละเล็กละน้อย จนตายไปในที่สุดตามกระบวนการ Apoptosis ข้อดีของการสลายไขมันด้วย Cryolipolysis ส่งผลกับเซลล์ไขมันโดยตรงโดยไม่กระทบกับเซลล์ข้างเคียง เเละเซลล์ไขมันที่เกิดจากการทำ Cryolipolysis จะตายไปอย่างถาวรเเละถูกกำจัดโดยธรรมชาติ ส่วนข้อเสียนั้นก็คือ ใช้เวลค่อนข้างนานกว่าจะเห็นผลลัพธ์โดยอยู่ที่ประมาณ 90 วัน จงอาจไม่เหมาะสำหรับคนที่ใจร้อนหรืออยากผอมเเบบเร่งด่วนนั่นเอง
3. สลายไขมันด้วยเทคโนโลยี Cavitation Ultrasound ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงส่งไปยังใต้ชั้นผิวทำให้เกิดฟองอากาศพลังงานสูงในชั้นไขมัน แล้วเกิดแตกตัวทำลายเซลล์ไขมันส่งผลให้เซลล์ไขมันหดตัวเเละมีขนาดเล็กลงได้ในทันที ดังนั้นข้อดีของการสลายไขมันด้วย Cavitation Ultrasound คือ ช่วยลดไขมันเเละทำให้ผอมลงได้โดยไม่ใช้เวลานาน เรียกว่าเเทบสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำ ส่วนข้อเสียก็อย่างที่บอกไปว่า Cavitation Ultrasound นั่นเป็นการลดไขมันให้มีขนาดเล็กลง เเต่ไขมันไม่ได้ตายไปอย่างถาวรจึงจำเป็นต้องเวียนกลับมาทำซำ้บ่อยๆ นั่นเอง
Comentários